​​โรคอันตรายที่มักเกิดกับเด็ก ๆ ตั้งแต่เกิด โรคแพ้นมวัว

โรคแพ้นมวัว หมายถึง เมื่อกินเข้าไปจะมีอการผิดปกติเกิดขึ้นหรือมีการตอบสนองที่ไม่ปกติต่อออะไรสักอย่างที่อยู่ในน้ำนมวัว เช่น โปรตีน ซึ่งปฏิกิริยาดังที่กล่าวถึงมาแล้วสามารถนำมาซึ่งความเปลี่ยนไปจากปกติได้ในหลาย ๆ ส่วนประกอบของร่างกาย เป็นต้นว่า ผิวหนัง ทำลายระบบทางเดินอาหาร หรือทำลายระบบหายใจ ฯลฯ

ในทารกที่แพ้นมวัว จะพบว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับผิวหนัง อย่างกับมีผื่นคันขึ้นตามร่างกาย หรือผื่นประเภทต่าง ๆ ระบบทางเดินอาหาร เช่น ลักษณะของการปวดท้อง อาเจียน มึนหัว ท้องเสียตลอด หรือถ่ายแบบมีเลือด ฯลฯ ระบบหายใจ เช่น อาการน้ำมูกเรื้อรัง อาการ เสลดเรื้อรัง หรืออาการหอบ ฯลฯ อาการอื่น  ๆตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัวน้อยกว่ากฎเกณฑ์ หรืออาการซีดเผือด ฯลฯ

หากท่านเจอว่าลูกน้อยมีการแพ้นมวัวอย่างหนัก คือได้ราว ๆ ปริมาณร้อยละ 0.6 รวมทั้ง    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ    เป็นอันตรายเสียชีวิต ด้านการแพทย์เรียกว่า anaphylaxis เด็กจะมีผื่นประเภทผื่นคัน มีลักษณะหน้าและปากบวม ลิ้นบวมจุกปาก คลื่นไส้ ท้องเสีย หอบ หมดสติ รวมทั้งชัก อาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นมักเกิดขึ้นอย่างเร็ว เมื่อมีการดื่มนมวัว

โรคแพ้นมวัวจะพบได้บ่อยที่สุดในเด็ก

เนื่องจากไม่เจอสาเหตุที่จริงของโรคแพ้นมวัว เหตุเพราะกฎเกณฑ์สำหรับเพื่อการวินิจฉัยโรคไม่เหมือนกันสาเหตุของโรคในต่างถิ่น เจออยู่ที่ปริมาณร้อยละ 1.8-7.5 อย่างไรก็แล้วแต่ปริมาณร้อยละ 0.5 ของเด็กที่ดื่มแม้

กระนั้นกับนมแม่ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ เด็กที่ดื่มเฉพาะนมแม่สามารถแพ้นมวัวได้ จากการมารดาเป็นผู้ดื่มนมวัวซะเอง หรือกินสินค้าที่ทำมาจากนมวัว ก็เลยทำให้มีโปรตีนที่อยู่ในนมวัว ปนกันออกมาสู่ในน้ำนมแม่ซึ่งเมื่อลูกน้อยดื่มเข้าไปทำให้ไปส่งผลให้เด็ก ๆ เกิดอาการแพ้ได้

พวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าเด็กแพ้นมวัว

นอกเหนือจากอาศัยข้อมูลที่ได้รับมาจากความเป็นมาและก็การตรวจสุขภาพเด็กอย่างถี่ถ้วนแล้ว คุณหมอบางทีอาจใช้กระบวนการตรวจเลือด หรือการทดลองผิวหนัง เพื่อช่วยรับรองการวิเคราะห์โรค การทดลองผิวหนังจะได้ผลการตรวจที่ถูกต้องแม่นยำกว่าการพิสูจน์เลือด แม้กระนั้นเด็กมักไม่ร่วมมือสำหรับในการทดลอง การวิเคราะห์เลือดจะดีมาก ๆ สำหรับในเด็กที่มีลักษณะผื่นแพ้นมวัวอย่างหนักจนกระทั่งไม่อาจจะหยุดกินยาแก้แพ้ได้หรือแม้กระทั่งจะพบผิวหนังผิดปกติที่ไม่สามารถกระทำการตรวจสอบโรคได้

โรคแพ้นมวัวหายได้ไหม

ถ้าเด็ก ๆ สามารถเลิกกินนมวัว หรืองดเว้นกินสินค้าอะไรก็ตามที่ทำมาจากนมวัวได้ตลอดไป เด็ก ๆ ก็จะมีลักษณะอาการดียิ่งขึ้นได้ เมื่อโตขึ้น หากในปริมาณร้อยละ 45-77 ปี สามารถหายได้เมื่ออายุประมาณ 1-2 ปี ปริมาณ 84-87 ปี จะเริ่มหายเมื่ออายุได้ 3 ปี และสุดท้ายหากปริมาณคือ ร้อยละ 90 ขึ้นไป จะหายเมื่ออายุ 5-10 ปี

อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ควรจะให้ความสำคัญกับลูกน้อย ของคุณให้มาก ๆ เพราะหากเด็กทารก รู้สึกเจ็บป่วย พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะพูดหรือบอกเราได้เลย

อาหารที่ควรรับประทานในทุกวัน

ในแต่ละวันนั้นร่างกายของเราต้องการสารอาหารในการไปล่อเลี้ยงร่างกาย  อาหารที่ควรรับประทาน    เพื่อสามารถสร้างพลังงาน เพื่อที่จะทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวันได้ ดังนั้นแล้วเมื่อร่างกายต้องการพลังงานการรับประทานอาหารเพื่อสร้างพลงังานนั้นจึงมีความสำคัญและควรรับประทานในทุกๆวัน

สำหรับอาหารที่ควรรับประทานในทุกวันมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ซีเรียล หนึ่งหรือสองเสิร์ฟต่อมื้อ (เช่น ขนมปัง ข้าว พาสต้า และคูสคูส) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมล็ดพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เนื่องจากมีแร่ธาตุที่มีคุณค่า เช่น แมกนีเซียมหรือฟอสฟอรัส และเส้นใยที่อาจสูญเสียไประหว่างการแปรรูปฃ

ผัก รับประทานอาหารกลางวันและอาหารเย็นตั้งแต่สองมื้อขึ้นไป – อย่างน้อยหนึ่งมื้อควรเป็นอาหารดิบ เลือกสีและพื้นผิวที่หลากหลายเพื่อให้มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารป้องกันที่หลากหลาย

ผลไม้ รวมหนึ่งหรือสองเสิร์ฟต่อมื้อเพื่อทดแทนของหวานหรือของว่าง 

น้ำ ให้แน่ใจว่าคุณได้รับการบริโภค 1.5–2 ลิตรต่อวันเป้นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

ผลิตภัณฑ์นม จำเป็นสำหรับสุขภาพกระดูก แต่เลือกรุ่นที่มีไขมันต่ำ

น้ำมันมะกอกพวกมันควรเป็นแหล่งที่มาหลักของไขมันในอาหารสำหรับทำอาหารและใส่น้ำสลัด (แต่ควรทานเพียง 1 ช้อนโต๊ะต่อคนต่อมื้อ เพราะแม้แต่น้ำมันที่มีประโยชน์ก็ยังมีแคลอรีสูง)

เครื่องเทศ สมุนไพร กระเทียม และหัวหอม ใช้เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับอาหารของคุณ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณเกลือลงได้

มะกอก ถั่ว และเมล็ดพืช แหล่งที่ดีของไขมันที่ดีต่อสุขภาพ โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และไฟเบอร์ – หยิบมือเล็กๆ น้อยๆ เป็นอาหารว่างเพื่อสุขภาพ

ไวน์ แม้ว่าไวน์จะเป็นส่วนหนึ่งของอาหาร Med เมื่อเมาพร้อมมื้ออาหาร ขอแนะนำให้ปฏิบัติตามแนวทางที่ดีต่อสุขภาพ นั่นคือ ไม่เกิน 14 หน่วยต่อสัปดาห์ โดยปราศจากแอลกอฮอล์อย่างน้อยสองวัน

รายสัปดาห์ควรรับประทานโปรตีนจากพืชและสัตว์หลายชนิด แต่จำไว้ว่าอาหารเมดิเตอร์เรเนียนส่วนใหญ่ไม่มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบหลัก ปลาและหอยสองเสิร์ฟหรือมากกว่าต่อสัปดาห์ ไข่สองถึงสี่มื้อต่อสัปดาห์จะให้แหล่งโปรตีนที่ดี

เนื้อแดง น้อยกว่าสองเสิร์ฟต่อสัปดาห์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดแบบไม่ติดมัน เนื้อสัตว์แปรรูป (เช่น แฮมและเบคอน) น้อยกว่าสัปดาห์ละครั้ง โปรตีนจากพืช การรวมกันของพืชตระกูลถั่ว (มากกว่าสองเสิร์ฟต่อสัปดาห์) และซีเรียลเพื่อให้เส้นใย

อาหารที่ต้องจำกัด อาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น น้ำตาล ขนมอบ ขนมหวานและช็อคโกแลต น้ำผลไม้รสหวาน และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สามารถบริโภคได้ในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ตัวชี้ไลฟ์สไตล์ สูตรอาหารสไตล์ Med ที่คุณอาจต้องการลอง กุ้งเมดิเตอเรเนียนกับเฟต้าครัมเบิ้ล ปลาเมดิเตอร์เรเนียนฤดูร้อน อบถาดสไตล์เมดกับมอสซาเรลล่าชีส สลัดเมซสไตล์กรีก Smokin ‘ถั่วสเปน ไก่สเปนง่าย ๆฟริตาตาผักย่าง รีซอตโต้ไก่ เห็ด

และเม็ดยี่หร่าองค์ประกอบอื่น ๆ ของอาหารเม็ด ได้แก่ การรักษาขนาดของส่วนอาหารให้อยู่ในระดับปานกลาง ใช้เวลาเตรียมอาหารและทำอาหาร การรับประทานอาหารตามฤดูกาลหากเป็นไปได้ และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปมากเกินไป นอกจากนี้ยังเกี่ยวกับการสังสรรค์รอบโต๊ะขณะรับประทานอาหารและทำกิจกรรมระดับปานกลางอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน

 

สนับสนุนโดย.      เครื่องช่วยฟังศิริราช

3 อาหารพลังงานงานสูงที่คนอยากผอมต้องเลี่ยงให้สุด

อาหารพลังงานงานสูง ปัจจุบันนี้เรื่องของการรับประทานอาหารนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก รวมไปถึงในเรื่องของการดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รู้หรือไม่ว่าอาหารในแต่ละมื้อนั้นมีความสำคัญต่อร่างกายของเรามากขนาดไหน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารมื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อที่ร่างกายของเรานั้นไม่ควรขาด เพราะอาหารมื้อนี้จะช่วยให้ร่างกายของเรามีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม

คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้เริ่มหันมาสนใจในเรื่องของการลดน้ำหนัก หรือการควบคุมอาหารกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องอดอาหารในมื้อเช้าเพราะคิดว่าเป็นมื้อที่ทำให้อ้วนง่ายนั่นเอง

แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารที่ทำงให้อ้วนง่ายนั้นมักที่จะเป็นอาหารที่มีไขมันสูง พลังงานสูง หรืออาหารที่เต็มไปด้วยน้ำตาล หรือแม้แต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์เองก็ตาม ฉะนั้น สำหรับใครที่กำลังยากจะลดน้ำหนัก หรือใครที่อยากผอม

แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเลี่ยงทานอาหารประเภทไหนดี วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่คนอยากผอมนั้นควรหลีกเลี่ยง ไม่อย่างนั้นนอกจากจะทำให้อ้วนง่ายแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราได้อีกด้วย จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย  

ขนมปังทาเนย หลายคนเลือกทานอาหารประเภทนี้เป็นมื้อเช้า เพราะคิดว่าเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับอาหารเช้า แต่รู้หรือไม่อาหารประเภทนี้นับเป็นอาหารที่มีพลังงานสูงมาก ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นมื้อเช้าที่สามารถหาทานได้ง่าย

แต่สำหรับใครที่อยากผอม ขอบอกเลยว่าควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้อย่างเด็ดขาด เพราะถ้าเรายังไปทานก็จะยิ่งทำให้พลังงานในร่างกายของเรานั้นสูงมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญเลยก็คือ จะยิ่งทำให้น้ำหนักตัวของเรานั้นพุ่งแบบไม่หยุดเลยก็ว่าได้ แถมยังมีโอกาสที่ร่างกายของเราจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่ายอีกด้วย โดยเฉพาะโรคเบาหวาน 

ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เรียกได้ว่าเป็นเมนูโปรดองใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน เพราะเมนูนี้เรียกได้ว่ามีทั้งความอร่อย และถูกปากเลยก็ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า ข้าวเหนียวหมูปิ้งนั้นจัดเป็นเมนูที่สามารถให้พลังงานสูงแก่ร่างกายของเราเป็นอย่างมาก ทั้งยังทำให้อ้วนได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่ต้องการอยากลดน้ำหนัก หรืออยากผอม ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้จะดีกว่า 

กาแฟเย็น เป็นเครื่องที่หลาย ๆ คนมักดื่มในทุก ๆ เช้า เพราะเป็นเมนูที่สามารถช่วยในเรื่องของการกระตุ้นระบบประสาทของเราให้เกิดการตื่นตัว แต่รู้หรือไม่ว่า ถึงแม้กาแฟจะมีประโยชน์ดี ๆ อยู่บ้าง แต่ก็สามารถให้พลังงานสูงแก่ร่างกายได้เช่นกัน เพราะคนส่วนใหญ่มักไม่ดื่มแค่กาแฟ มักที่จะมีส่วนผสมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความอร่อยเข้าไปอีก ดังนั้น หากเราดื่มบ่อย ๆ ก็จะยิ่งทำให้เราอ้วนง่าย หรืออาจมีพุงได้ สำหรับใครที่อยากผอม ถ้าหากลดได้ก็ควรลดจะดีที่สุด 

3 เครื่องดื่มที่แม่ควรระวัง

เครื่องดื่มที่แม่ควรระวัง ช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่คุณแม่หลาย ๆ คนต้องคำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ต้องคอยระมัดระวังตนเองอยู่เสมอจนถึงการคลอด เพราะการดูแลตนเองอยู่ตลอดก็เปรียบเสมือนการดูแลเอาใจใส่ลูกของเราด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การเดิน การนั่ง การนอน หรือแม้แต่การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่เราทำไปนั้นก็จะส่งต่อไปยังลูกของเราที่อยู่ในท้อง

โดยส่วนใหญ่แล้วโบราณมักกล่าวไว้ว่า หากกำลังตั้งครรภ์อยู่ไม่ควรเครียด เพราะจะส่งผลเสียไปยังลูกที่อยู่ในครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดของการดูแลตนเองในระหว่างการตั้งครรภ์คือการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและลูกน้อย ดังนั้น เครื่องดื่มที่แม่ควรระวัง วันนี้เราจะมาแนะนำอาหารที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ หากอยากให้ลูกมีสุขภาพร่างกายที่ดี และแข็งแรง จะมีอาหารประเภทไหนที่เราควรหลีกเลี่ยงและอาจเป็นอันตราต่อสุขภาพไปดูกันเลย 

น้ำอัดลม ถึงแม้ว่าน้ำอัดลมจะสามารถช่วยให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น และเป็นเครื่องดื่มโปรดของใครหลาย ๆ คนแต่แน่นอนว่าน้ำอัดลมก็นับเป็นเครื่องที่สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราได้เป็นอย่างมาก เพราะในน้ำอัดลมส่วนใหญ่แล้วจะมีน้ำตาลและแคลอรีที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ยิ่งถ้าหากเราตั้งครรภ์อยู่แล้วดื่มน้ำอัดลมเยอะเกินนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังสามารถเพิ่มโอกาสที่ลูกจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

คาเฟอีน ถึงแม้ว่าเราตั้งครรภ์อยู่ แต่การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเยอะเกินไป อาทิเช่น ชา น้ำอัดลม หรือแม้แต่กาแฟ การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนคนที่ตั้งครรภ์อยู่สามารถดื่มได้ แต่ก็ไม่ควรดื่มเกินปริมาณที่กำหนด เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของตัวแม่เองแล้ว ยังอาจส่งผลเสียไปยังลูกของเราได้อีกด้วย

แอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ได้ตั้งครรภ์ การดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราได้เป็นอย่างมากไม่แพ้เครื่องดื่มชนิดอื่นเลยก็ว่าได้ เพราะยิ่งถ้าเป็นช่วงการตั้งครรภ์เครื่องดื่มที่เราควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดนั่นก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะหากดื่มเข้าไปแล้วอาจส่งผลให้แอลกอฮอล์เข้าไปทำลายพัฒนาการของลูกเราได้ ทั้งยังอาจส่งผลให้เด็กมีร่างกายที่เปลี่ยนไปได้อีกด้วย

ดังนั้น เพื่อลดการเกิดปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ และหากอยากให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี แข็งแรง ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดอย่างเด็ดขาด และทางที่ดีควรหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงทั้งแม่และลูก และเพื่อส่งผลให้พัฒนาการของลูกนั้นเป็นไปได้ดีขึ้น 

 

สนับสนุนโดย.    ถูกหวยลาว2ตัวได้กี่บาท

แบบไหนที่เรียกว่า ไอเรื้อรัง

ถึงแม้ว่าอาการไอโดยมากจะไม่ร้ายแรงและก็หายเอง อาการไอบางอย่างไม่ได้เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะอาการ ไอเรื้อรัง บางทีอาจทำให้เกิดผลเสียต่อการดำเนินชีวิตทุกวันได้ เช่น กระตุ้นให้เกิดความกังวลว่าจะมีโรคที่ก่อให้เกิดอันตรายรุนแรงหลบซ่อนอยู่ ทำให้ผู้คนรอบข้างกังวลใจ หรือกลัวเพราะเหตุว่าบางทีอาจเป็นการกระจายเชื้อโรคไปสู่คนอื่น ๆ ได้อีกด้วย

อาการไอ เป็นอย่างไร?

อาการไอ เป็นสิ่งที่ตอบโต้อย่างหนึ่งของร่างกายที่มี เพื่อกำจัดสาร สิ่งระคายเคือง สารปะปนอื่น ๆ รวมทั้งเชื้อโรคออกมาจากระบบหายใจ การไอมีสามระยะ เริ่มจากการหายใจเข้าเพื่อเพิ่มขนาดอากาศแล้วก็แรงกดดันในช่องอกแล้วก็ท้อง ก่อให้เกิดการยุบตัวของกล้ามท้องนำมาซึ่งการก่อให้เกิดการหายใจออกอย่างเร็วพร้อมทั้งการเปิดของกล่องเสียง ก็เลยกำเนิดเสียงไอกับขับเอาสิ่งหลงเหลือในทางเดินหายใจออกมา

อาการไอ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามช่วงเวลา ดังต่อไปนี้

  1. ไอกะทันหัน มีช่วงเวลาของอาการไอน้อยกว่า 21 วัน 
  2. ไอเกือบกะทันหันเป็นอาการไอที่มีช่วงเวลาระหว่าง 21-56 วัน
  3. ไอเรื้อรังเป็นมีช่วงเวลาของอาการไอมากยิ่งกว่าหรือพอ ๆ กับ 56 วัน

ไอเรื้อรัง เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากอะไร?

การกินยารักษาความดันเลือดสูงชนิดหนึ่ง, โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคแพ้อากาศเรื้อรัง แล้วมีน้ำมูกไหลลงคอ, สายเสียงอักเสบเรื้อรัง, เนื้องอกรอบ ๆ คอ กล่องเสียง หรือหลอดลม, หลอดลมอักเสบเรื้อรัง, โรคหืด, วัณโรคปอด, โรคกรดไหลย้อน และอื่น ๆ

ราวปริมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ ของอาการไอเรื้อรัง  มีสาเหตุจาก ภูมิแพ้ หรือโรคแพ้อากาศเรื้อรัง แล้วก็โรคกรดไหลย้อน

ไอเรื้อรังต้องรักษาก่อนสายไป

เราทุกคนต่างรู้ดีอยู่แล้วว่า เมื่อเกิดอาการผิดปกติขึ้นกับร่างกายเรา เราควรที่จะเข้ารับการตรวจเพื่อหาต้นเหตุที่แท้จริงของอาการผิดปกติ ซึ่งการไอก็เช่นกัน จริง ๆ ควรไปหาหมอตั้งแต่ไอติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ เพราะเท่ากับว่าเป็นอาการไอเรื้อรังที่ควรหาสาเหตุที่แท้จริงได้แล้ว จะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และหายในเร็ววัน ทั้งนี้สิ่งที่ผู้ป่วยไอเรื้อรังควรจะทำตอนที่เกิดไอหนัก ๆ ได้แก่

– เลี่ยงฝุ่น ควัน สารเคมี หรือกลิ่นที่ทำให้เกิดอาการไอเพิ่มขึ้น

– เลี่ยงอากาศเย็น เนื่องจากความเย็นส่งผลให้หลอดลมหดตัวยิ่งเกิดการไอมากขึ้น

– ให้ความอบอุ่นกับร่างกาย

– ทานยารักษาเบื้องต้นได้

ทางที่ดีที่สุด เมื่อป่วยไอติดต่อกันนาน ๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการ เพื่อรับการรักษาที่ตรงจุด เผื่อว่าคุณอาจจะป่วยด้วยโรคร้ายแรง ซึ่งหากตรวจพบเร็วก็สามารถรักษาได้ทันเวลา และหากไม่เป็นโรคที่รุนแรงก็จะได้คลายกังวล และรักษาอาการไอที่น่ารำคาญนี้ให้หายได้เร็ว ๆ

 

สนับสนุนโดย.      วิธีสมัครหวยออนไลน์

อย่าหลงเชื่อ !! ยาแอสไพริน ช่วยรักษาอาการติดเชื้อโควิด-19 ไม่ได้

         ในขณะนี้ได้มีการใช้ข้อความเกี่ยวกับเรื่องของการใช้ยาแอสไพรินโดยมีการระบุว่า  หากใครที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิคหรือมีการติดเชื้อไวรัสโควิตแล้วสามารถรักษาอาการติดเชื้อไวรัสโควิคได้ด้วยตนเองเพียงแค่หาซื้อยา aspirin มากิน  โดยข้อความข่าวนี้ได้มีการระบุด้วยว่ามีผู้ที่ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิช- แล้วกินยาแอสไพรินรักษาการติดเชื้อและหายมาแล้วหลายรายจึงทำให้มีข้อความนี้พากันส่งต่อผ่านทาง Social Media เป็นจำนวนมาก

      อย่างไรก็ตามทางด้านกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของความเชื่อในการกินยา aspirin เพื่อรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิทนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดโดยทางกระทรวงสาธารณสุขประกาศให้กับประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อข้อความดังกล่าวเพราะยังไม่มีการทำวิจัยออกมายืนยันว่ายาแอสไพรินนั้นสามารถรักษาการติดเชื้อไวรัส covid ได้โดยการรักษาอาการติดเชื้อของไวรัสโควิช- นั้นควรจะต้องมีการรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะและไม่ควรหาซื้อยาแอสไพรินมากินเองเพราะกินแล้วไม่หายอย่างแน่นอน

         สำหรับข้อมูลความรู้เกี่ยวกับยาแอสไพรินนั้น  ทางด้านกรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาพูดถึงคุณสมบัติของยาชนิดนี้ว่าเป็นยาที่จะช่วยในเรื่องของการบ้านการเกาะของเลือดไม่ให้เกาะกลุ่มกัน   โดยยา aspirin ส่วนใหญ่แล้ว ทางการแพทย์จะเอาไว้ใช้สำหรับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดอุดตันหรือไม่ก็จะใช้กับกลุ่มคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจหรือเส้นเลือดอุดตันในสมอง

           โดยเมื่อทางแพทย์รักษาอาการของโรคเหล่านี้เสร็จแล้วจะมีการให้กินยาแอสไพรินเพื่อต้องการที่จะให้ผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ต้องกลับมาเป็นโรคนี้ซ้ำอีกครั้งหนึ่งนั่นเองอย่างไรก็ตามคุณสมบัติของยาแอสไพรินนั้นจะช่วยในเรื่องของการไม่ให้เกิดลิ่มเลือดและการอุดตันภายในหลอดเลือดได้แต่ไม่มีคุณสมบัติไหนระบุว่าสามารถรักษาอาการติดเชื้อไวรัส covid-19  ได้ 

         อย่างไรก็ตามการทานยา aspent จะส่งผลข้างเคียงได้เช่นเดียวกันโดยผู้ที่กินยา aspirin เข้าไปนั้นจะมีความเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาเลือดออกตามส่วนต่างๆในร่างกายได้ซึ่งแน่นอนว่าไม่ว่าคนที่กินยาแอสไพรินนั้นจะมีสภาวะร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ปกติดีหรือว่าได้รับบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุหรือบางทีอาจจะมีการเข้ารับการผ่าตัดหากมีการกินยาตัวนี้เข้าไปอาจจะเสี่ยงทำให้เกิดเลือดออกมากผิดปกติได้ซึ่งมันจะส่งผลอันตรายทำให้เสียชีวิตได้นั่นเองดังนั้นทางที่ดีที่สุดก่อนกินยาแอสไพรินควรจะปรึกษาอาการกับทางเภสัชกรเสียก่อน 

 

สนับสนุนโดย  วิธีเล่นหวยรัฐบาล

เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต หากไม่อยากเสี่ยงข้อหัวเข่าเสื่อม

“ข้อหัวเข่าเสื่อม” อาการที่ผู้คนจำนวนมากมีความรู้สึกว่าจะเกิดขึ้นกับคนที่อายุมาก ๆ และก็คนที่เผชิญอุบัติเหตุ คุณอาจคิดผิด เพราะเมื่อหากการกระทำสำหรับเพื่อการดำรงชีวิตทุกวันของคุณนั้นค่อนข้างจะสร้างปัญหาให้เข่าโดยตลอด โรคข้อหัวเข่าเสื่อมจะมาเยี่ยมเยือนคุณได้เร็วและก็ง่ายดาย

โรคข้อหัวเข่าเสื่อม เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่กระดูกอ่อนซึ่งเป็นส่วนที่คอยรองรับการเคลื่อนไหวของร่างกายแล้วก็ดูดซึมแรงด้านในข้อหัวเข่า ไม่ให้มีการสึกกร่อนและก็หมดสภาพลง แม้กระดูกอ่อนนี้เสียหาย กระดูกในข้อหัวเข่าจะเสียดสี นำไปสู่การอักเสบแล้วก็มีลักษณะปวด โดยปกติถ้ามีต้นเหตุที่เกิดจากการเสื่อมของข้อส่วนใหญ่จะเริ่มจากข้อหัวเข่าข้างในก่อน เมื่อมีการสึกมากขึ้นก็เลยเสื่อมอีกทั้ง 3 ข้อได้แก่ ผิวข้อภายใน ผิวข้อข้างนอก รวมทั้งผิวข้อข้างหลังกระดูกสะบ้า

สิ่งที่ทำให้เกิดโรคข้อหัวเข่าเสื่อม

– กรรมพันธุ์และโรคที่เป็นมาตั้งแต่เกิด ดังเช่น ขาหรือหัวเข่าผิดแบบ

– อายุแล้วก็เพศ ประสิทธิภาพสำหรับเพื่อการปรับปรุงแก้ไขซ่อมแซมตนเองของกระดูกอ่อนก็น้อยลงไปตามกาลเวลา นอกจากนั้น หญิงที่อยู่ในวัย 50 ปี ขึ้นไปจะมีโอกาสของการเกิดข้อหัวเข่าเสื่อมได้มากกว่าเพศชายที่อายุเสมอกัน

– น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ 

– เคยมีประวัติการรักษาที่ข้อหัวเข่า นำมาซึ่งการเจ็บป่วยด้วยโรคข้อเข่าเสื่อมได้ ควรได้รับการดูแลอย่างถูกต้องเหมาะสม

– การใช้ข้อหัวเข่าหักโหมบ่อย ๆ หรืออิริยาบถที่จำต้องงอเข่ามากจนเกินความจำเป็น ตัวอย่างเช่น การคุกหัวเข่า ซึ่งทำให้หัวเข่าจะต้องรับแรงกดสูง 

– โรคไขข้ออักเสบ รูมาตอยด์ เกาต์ นำมาซึ่งการทำให้กระดูกอ่อนถูกทำลาย ทำให้มีการเกิดลักษณะของการปวดแล้วก็ข้อติดแข็งตามมา

ความประพฤติปฏิบัติที่เสี่ยง โรคข้อหัวเข่าเสื่อม

  1. น้ำหนักตัวมากเกินหลักเกณฑ์ 

 น้ำหนักตัวที่มาก ทำให้เข่าจำเป็นต้องแบกรับน้ำหนักมาก ก็เลยเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดข้อหัวเข่าเสื่อมก่อนวัย

  1. เล่นกีฬาที่มีการปะทะ 

เช่น บอล บาสเกตบอล รักบี้ รวมถึง มวยไทย กีฬากลุ่มนี้ ล้วนแล้วแต่เพิ่มช่องทางที่หัวเข่าจะถูกชนกระทั่งมีการฉีกจนขาดของกระดูกอ่อนหรือเอ็นข้างใน ซึ่งจะก่อให้ข้อหัวเข่าอ่อนแอลง

  1. นั่งในท่าที่ไม่เหมาะสมอยู่เสมอ ๆ

ไม่ว่าจะเป็นการนั่งงอเข่า พับเพียบ นั่งขัดสมาธิ หรือนั่งยอง ๆ แม้นั่งในท่านั่งลักษณะดังที่กล่าวมาแล้วเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน หรือนั่งเป็นประจำจะก่อให้กำเนิดแรงอัดด้านในข้อหัวเข่ามากยิ่งขึ้น

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว และไม่อยากเสี่ยงเจอโรคข้อเข่าเสื่อม ควรเปลี่ยนแปลงแบบอย่างการใช้ชีวิต เช่น ทานอาหารที่ดี เพื่อควบคุมน้ำหนักตัว บริหารร่างกายที่ลดการใช้ข้อหัวเข่าน้อยบ่อย ๆ ตัวอย่างเช่น ว่าย ปั่นจักรยาน เดิน เพื่อสนับสนุนให้ข้อหัวเข่าแข็งแรงขึ้น เป็นต้น

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    เว็บหวยฮานอยสด

Covid -19 ทำคนนไทยแสนเศร้า เพราะทำให้คนไทยเป็นหนี้ครัวเรือนเพิ่งสูงขึ้นเกินกว่าห้าแสนบาท

      สำหรับเมื่อปีที่ผ่านมาประชาชนคนไทยมีหนี้ครัวเรือนเป็นจำนวนมากหลังจากที่เริ่มมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยข้อมูลสถิติหนี้ครัวเรือนนั้นอาจจะกล่าวได้ว่าต่อหนึ่งครัวเรือนจะมีหนี้กันอยู่เฉลี่ยที่ประมาณ สี่แสนแปดหมื่นบาท  ซึ่งยอดนี้เป็นยอดที่เพิ่มมากกว่าสี่สิบสองเปอร์เซ็น หากเปรียบยอดมาจากเมื่อปี พ.ศ.2562 นับได้ว่ายอดนี้เป็นยอดที่มากที่สุดเท่าที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อนเลยก็ว่าได้

       และจากข้อมูลยอดของประชาชนคนไทยที่มีคนตกงานมากขนาดนี้ แถมบางคนที่ไม่ได้ตกงาน แต่ก็มีรายได้ที่ลดลง และอีกทั้งตอนนี้ข้าวของต่างๆไม่ว่าผักหรือผลไม้ และเนื้อสัตว์รวมถึงสินค้าอื่นๆก็มีราคาที่แพงขึ้น ทำให้คนต้องเริ่มกู้หนี้ยืมสิน ทำบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดกันมากขึ้น ดังนั้น หมายถึงว่าผู้คนส่วนใหญ่ตอนนี้มีหนี้สินกันมากขึ้น และที่สำคัญด้วยปัญหาเศรษฐกิจตอนนี้ทำให้หลายคนจึงไม่มีเงินจ่ายหนี้บัตรต่างๆ ทำให้ตอนนี้มีคนผิดนัดการจ่ายเงินกันมากยิ่งขึ้น 

      และแน่นอนว่าด้วยสถาการณ์ตอนนี้เศรษฐกิจยังไม่ดี แถมไวรัสยังระบาดหนักกว่าเดิมจึงทำให้สามารถคิดกันได้เลยว่า สำหรับปี พ.ศ. 2564 นี้คนจะมีหนี้สินกันเยอะมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน จากเดิมที่เป็นหนี้กันคนละ 4.8 แสนบาทอาจจะมีการเพิ่มมากถึงคนละ ห้าแสนบาทเลยก็ได้ เรียกได้ว่ายอดหนี้ของคนไทยจะสูงอย่างที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนนั่นเอง 

     สำหรับปัญหาหนี้สินของประชาชน ที่มีการคาดการณ์กันอยู่นี้ คาดว่าหากว่าถ้าไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ และถ้าผู้คนยังคงไม่สามารถเปิดกิจการได้ และคนงานกลุ่มแรงงานยังไม่สามารถหางานทำได้ จะยิ่งทำให้ยอดหนี้สินนั้นเพิ่มมากกว่าที่มีการประเมิณเอาไว้นี้อย่างแน่นอน ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งแก้ไข ควบคู่กับการกำจัดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้หมดออกไปจากประเทศไทย หากไม่เช่นนั้นแล้วประเทศไทยจะมีหนี้สินมากจนยากที่จะแก้ไขอย่างแน่นอน

           จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ของประชาชนคนไทยในขณะนี้นั้นมีสภาพย่ำแย่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและหนี้สินที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้นั้นค่อนข้างเป็นยอดที่สูงมาก  แต่ถ้าสถานการณ์ของการระบาดของไวรัสยังไม่ดีขึ้นรัฐบาลจำเป็นต้องมีการประกาศบล็อกดาวพื้นที่ต่างๆเศรษฐกิจยังไม่ได้รับการแก้ไขสถานการณ์ที่คนไทยจะเป็นหนี้ก็จะยังคงเป็นอย่างนี้อย่างต่อเนื่องไปอีกนานเลยทีเดียว

      

        

สนับสนุนเรื่องราวโดย    วิธีซื้อหวยออนไลน์ lotto

การบินไทย ฟื้นฟูตามกฎหมายล้มละลาย ไม่ใช่ปล่อยล้มละลาย

จากกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์ สำหรับเรื่องการฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นั้นว่าควรจะดำเนินไปทิศทางใดระหว่างการปล่อยให้ล้มละลายไปเลย หรือควรจะพยุงกิจการไว้ เพื่อคงไว้สำหรับสายการบินประจำชาติ ซึ่งต้องบอกเลยว่าตลอดระยะเวลาเกือบแปดปีที่ทาง การบินไทย นั้น

ประสบปัญหาการขาดทุนมาตลอด ก็เพราะเนื่องจากการบริหารงานของผู้บริหารที่ไม่ว่าจะสักกี่คนที่เข้ามาทำหน้าที่ต่างก็ไม่สามารถพาสายการบินนี้ให้รอดพ้นจากการขาดทุนได้เสียที ซึ่งตามสายตาประชาชนคนนอกที่รับรู้มาตลอดว่า สายการบินไทย ระดับฟูลเซอร์วิส นั้น

เป็นสายการบินที่มีราคาตั๋วค่อนข้างแพงมาก แต่ทำไมยังถึงขาดทุนได้อยู่ทุกวันนี้ ซึ่งหลายๆ คนที่อยู่วงในนั้นต่างมองว่า ด้วยระบบโครงสร้างและปัญหาภายในขององค์กรเองนั่นแหละที่เป็นตัวปัญหา ด้วยภาวการณ์เอื้อผลประโยชน์กันเองอยู่ข้างใน รวมทั้งบุคคลากรที่ล้นเหลือกับปริมาณของงานที่ต้องรับผิดชอบทำให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารขององค์กรมีมากเกินหลายเท่าตัว

เพราะทุกครั้งเราจะเห็นว่าบ่อยครั้งที่สายการบินนี้จะมีผู้โดยสารเต็มเกือบทุกเที่ยวบินที่มีตารางบิน แต่ในด้านความเป็นจริงแล้วนั้น ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นระดับคนมีเงินและมีอำนาจทางการเมืองรวมไปถึงพวกที่มีเส้นสาย ที่ชอบนั่งที่นั่งระดับ Business class หรือ First class ที่มีราคาค่าตั๋วต่อไปอยู่ที่ตั้งแต่ 60,000-300,000 บาท แต่เรื่องจริงที่ต้องรับรู้คือ ที่นั่งที่กล่าวมาเกือบมากกว่าครึ่ง ถูกนั่งฟรี จากกลุ่มคนที่กล่าวมา

ซึ่งทำให้รายรับหายไป คิดง่ายๆ ต่อเที่ยวบินอยู่ที่ เกือบๆ สองถึงสามล้านบาท แล้วลองคำนวณกันเล่นๆ ว่า วันหนึ่งมีกี่เที่ยวบิน และเดือนหนึ่งรายรับหายไปเท่าไหร่ ส่วนอีกปัญหาคือรายรับของบุคคลากรที่มีค่าจ้างระดับแพงเกินความสามารถและงานที่ได้รับมอบหมาย รวมถึงตำแหน่งในโครงสร้างที่ทับซ้อนกันอย่างไม่รู้ว่าทำไมตำแหน่งและงานรับผิดชอบแบบนี้ถึงต้องมีคนที่มีตำแหน่งระดับนี้

ทำงานกันอยู่หลายคน หากมองกันแค่สองปัญหานี้ก็คงตอบได้แล้วว่าทำไมการบินไทย สายการบินแห่งชาติจึงเกิดสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงจะต้องปิดตัวลงไปอย่างช่วยไม่ได้ ถึงขนาดจะต้องเข้ากระบวนการสู่การล้มละลาย ทั้งๆที่มีรัฐวสาหกิจถือหุ้นมากกว่า 50%

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่หากจะยังให้สายการบินไทย ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมากนานกว่าห้าสิบปี จะยังคงอยู่เป็นสายการบินประจำชาติได้ ก็จงอย่างอายที่จะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู ตามกฎหมายล้มละลาย เพราะหลายสายการบินชั้นนำของโลก ที่มีปัญหาก็เคยผ่านกระบวนการนี้มาแล้ว

 

สนับสนุนโดย  เว็บแทงหวยถอนขั้นต่ำ100

สูบบุหรี่บ่อย ๆ เสี่ยงโรคอะไรบ้างนะ

การสูบบุหรี่เป็นประจำ อาจมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป โดยข้อดีของการสูบบุหรี่นั้นคือ จะช่วยให้ผู้ที่สูบนั้นรู้สึกผ่อนคลาย คลายเครียดจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และในส่วนของข้อเสียนั้นก็มีมากมายไม่แพ้ข้อดีเลยก็ว่าได้

เพราะนอกจากจะส่งผลเสียทางปอดโดยตรงแล้ว ยังสามารถส่งผลเสียไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อีกด้วย แต่สมัยนี้ คนส่วนใหญ่ที่สูบบุหรี่สังคมก็อาจจะมองว่าเป็นคนที่ไม่ดี เพราะบุหรี่เป็นสิ่งที่อันตรายต่อสภาพร่างกายเป็นอย่างมาก

เชื่อเถอะว่าคนที่สูบบุหรี่ร้อยทั้งร้อยเขาก็อาจจะเป็นที่นิสัยดีก็ได้ แต่ที่ชอบสูบบุหรี่นั้นเขาก็อาจจะมีเหตุผลส่วนตัวของเขาก็ได้ อย่างไรก็ตาม คนที่มักสูบบุหรี่ก็มักจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าบุหรี่สั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายตนเองมากแค่ไหน วันนี้เราจึงอยากมายกตัวอย่างความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่เป็นประจำ จะมีโรคไหนกันบ้างไปดูกันเลย

โรคมะเร็งปอด ปอดของเรานั้นแน่นอนว่าจะต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่แล้ว เพราะการที่เราสูบบุหรี่เข้าไปในแต่ละวันนั้นสารพิษที่อยู่ในบุหรี่ที่เป็นสารก่อมะเร็ง จะเข้าไปเกาะอยู่ตามปอดของเราและส่งผลให้ปอดนั้นเกิดการเสียหาย ส่วนใหญ่แล้วคนที่มักสูบบุหรี่เป็นประจำบางรายอาจเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งปอดก็ได้ ดังนั้น ถึงแม้ว่าการดูดบุหรี่จะมีข้อดีต่อใครบางคน แต่ในข้อเสียนั้น ก็มีมากมายไม่แพ้กันเลย อีกทั้งยังอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างมาก

โรคภูมิแพ้ โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำ จะมีการขับเสมหะออกมาเป็นจำนวนมากกว่าปกติ เพราะควันบุหรี่จะส่งผลให้ผิวของหลอดลมเกิดการไม่ทำงาน เพราะปกติผิวหลอดลมจะทำหน้าที่คอยปัดฝุ่นที่ออกมาจากหลอดลม และเมื่อเราสูบบุหรี่เข้าไป ก็จะทำให้ผิวของหลอดลมนั้นไม่ทำงาน จนส่งผลให้ฝุ่นและเสมหะเกิดการตกค้าง และทำให้ผู้สูบบุหรี่นั้นเกิดโรคภูมิแพควันบุหรี่ขึ้นได้ และบางคนก็อาจมีอาการที่ร้ายแรงมากกว่านี้

วัณโรค รู้หรือไม่ว่าคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำ ปอดของพวกเขาเหล่านั้นจะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลง เพราะเนื่องจากเนื้อของปอดนั้นได้ถูกทำลายลงจากควันบุหรี่ จนทำให้เกิดเป็นวัณโรคนั่งเอง นอกจากนี้แล้ว ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่เข้าไปเป็นประจำยังสามารถเสี่ยงต่อการเกิดเป็นวัณโรคปอดที่ร้ายแรงได้อีกด้วย เพราะเนื่องจากร่างกายติดเชื้อวัณโรคอยู่แล้วจะทำให้ร่างกายควบคุมเชื้อไม่อยู่ และเกิดเป็นวัณโรคปอดนั่นเอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    แทงหวยหุ้น