โรคแพ้นมวัว หมายถึง เมื่อกินเข้าไปจะมีอการผิดปกติเกิดขึ้นหรือมีการตอบสนองที่ไม่ปกติต่อออะไรสักอย่างที่อยู่ในน้ำนมวัว เช่น โปรตีน ซึ่งปฏิกิริยาดังที่กล่าวถึงมาแล้วสามารถนำมาซึ่งความเปลี่ยนไปจากปกติได้ในหลาย ๆ ส่วนประกอบของร่างกาย เป็นต้นว่า ผิวหนัง ทำลายระบบทางเดินอาหาร หรือทำลายระบบหายใจ ฯลฯ
ในทารกที่แพ้นมวัว จะพบว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับผิวหนัง อย่างกับมีผื่นคันขึ้นตามร่างกาย หรือผื่นประเภทต่าง ๆ ระบบทางเดินอาหาร เช่น ลักษณะของการปวดท้อง อาเจียน มึนหัว ท้องเสียตลอด หรือถ่ายแบบมีเลือด ฯลฯ ระบบหายใจ เช่น อาการน้ำมูกเรื้อรัง อาการ เสลดเรื้อรัง หรืออาการหอบ ฯลฯ อาการอื่น ๆตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัวน้อยกว่ากฎเกณฑ์ หรืออาการซีดเผือด ฯลฯ
หากท่านเจอว่าลูกน้อยมีการแพ้นมวัวอย่างหนัก คือได้ราว ๆ ปริมาณร้อยละ 0.6 รวมทั้ง เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ เป็นอันตรายเสียชีวิต ด้านการแพทย์เรียกว่า anaphylaxis เด็กจะมีผื่นประเภทผื่นคัน มีลักษณะหน้าและปากบวม ลิ้นบวมจุกปาก คลื่นไส้ ท้องเสีย หอบ หมดสติ รวมทั้งชัก อาการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นมักเกิดขึ้นอย่างเร็ว เมื่อมีการดื่มนมวัว
โรคแพ้นมวัวจะพบได้บ่อยที่สุดในเด็ก
เนื่องจากไม่เจอสาเหตุที่จริงของโรคแพ้นมวัว เหตุเพราะกฎเกณฑ์สำหรับเพื่อการวินิจฉัยโรคไม่เหมือนกันสาเหตุของโรคในต่างถิ่น เจออยู่ที่ปริมาณร้อยละ 1.8-7.5 อย่างไรก็แล้วแต่ปริมาณร้อยละ 0.5 ของเด็กที่ดื่มแม้
กระนั้นกับนมแม่ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ เด็กที่ดื่มเฉพาะนมแม่สามารถแพ้นมวัวได้ จากการมารดาเป็นผู้ดื่มนมวัวซะเอง หรือกินสินค้าที่ทำมาจากนมวัว ก็เลยทำให้มีโปรตีนที่อยู่ในนมวัว ปนกันออกมาสู่ในน้ำนมแม่ซึ่งเมื่อลูกน้อยดื่มเข้าไปทำให้ไปส่งผลให้เด็ก ๆ เกิดอาการแพ้ได้
พวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าเด็กแพ้นมวัว
นอกเหนือจากอาศัยข้อมูลที่ได้รับมาจากความเป็นมาและก็การตรวจสุขภาพเด็กอย่างถี่ถ้วนแล้ว คุณหมอบางทีอาจใช้กระบวนการตรวจเลือด หรือการทดลองผิวหนัง เพื่อช่วยรับรองการวิเคราะห์โรค การทดลองผิวหนังจะได้ผลการตรวจที่ถูกต้องแม่นยำกว่าการพิสูจน์เลือด แม้กระนั้นเด็กมักไม่ร่วมมือสำหรับในการทดลอง การวิเคราะห์เลือดจะดีมาก ๆ สำหรับในเด็กที่มีลักษณะผื่นแพ้นมวัวอย่างหนักจนกระทั่งไม่อาจจะหยุดกินยาแก้แพ้ได้หรือแม้กระทั่งจะพบผิวหนังผิดปกติที่ไม่สามารถกระทำการตรวจสอบโรคได้
โรคแพ้นมวัวหายได้ไหม
ถ้าเด็ก ๆ สามารถเลิกกินนมวัว หรืองดเว้นกินสินค้าอะไรก็ตามที่ทำมาจากนมวัวได้ตลอดไป เด็ก ๆ ก็จะมีลักษณะอาการดียิ่งขึ้นได้ เมื่อโตขึ้น หากในปริมาณร้อยละ 45-77 ปี สามารถหายได้เมื่ออายุประมาณ 1-2 ปี ปริมาณ 84-87 ปี จะเริ่มหายเมื่ออายุได้ 3 ปี และสุดท้ายหากปริมาณคือ ร้อยละ 90 ขึ้นไป จะหายเมื่ออายุ 5-10 ปี
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ควรจะให้ความสำคัญกับลูกน้อย ของคุณให้มาก ๆ เพราะหากเด็กทารก รู้สึกเจ็บป่วย พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะพูดหรือบอกเราได้เลย